เซฮัลโหลค่ะสาว ๆ เคยรู้สึกบ้างมั้ย ว่า อกบุ๋ม นี่มันทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจเอาซะเลย ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าอะไรก็ไม่สวยแบบคนอื่นเค้า อยากจะใส่บิกินี่ก็ไม่กล้า หรือหนัก ๆ เลยก็ต้องคอยห่อไหล่เพื่อไม่ให้ใครเห็นชัด ซึ่งต้องบอกเลยว่า ภาวะอกบุ๋ม หรือ Pectus Excavatum เป็นภาวะที่ทำให้กระดูกหน้าอกบุ๋มลงไปด้านใน จึงทำให้หน้าอกดูไม่สมดุล หรืออาจจะทำให้หายใจลำบากในบางครั้งอีกด้วย และปัญหามากมายเหล่านี้มันอาจจะดูว่าเป็นปัญหาที่ทำให้เราเครียดและไม่มั่นใจ แต่เดี๋ยวก่อนนะจ๊ะ ตอนนี้เรามีเรื่องราวดี ๆ จะมาบอก เพราะถึงนี่จะเป็นปัญหาที่มักพบเจอได้ไม่บ่อย การแก้ไขก็คงยากมากเช่นกัน แต่ไม่ใช่เลย เพราะยังมีการ เสริมหน้าอก ที่ยังเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ด้วยเช่นกัน เพราะศัลยกรรม เสริมหน้าอก ไม่ใช่แค่เรื่องสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับปรุงความมั่นใจและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มากับ โรคอกบุ๋ม ด้วย มาลองดูกันว่าการ เสริมหน้าอก จะสามารถช่วยได้ยังไง เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกทุกมุมมองพร้อมเผยถึงเคล็ดลับในการเลือกวิธีการ เสริมหน้าอก ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เตรียมตัวกันให้พร้อม เพราะเราอาจจะเจอวิธีที่จะทำให้หน้าอกของเราจากที่บุ๋ม กลับมาสวยปังได้แบบไม่ต้องสงสัยเลย และสำหรับใครที่สงสัยว่า อกบุ๋มมีกี่แบบ หรือ อกบุ๋มเสริมหน้าอกได้ไหม เรามาร่วมหาคำตอบกัน!!!

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ โรคอกบุ๋ม Pectus Excavatum กันดีกว่า

ภาวะอกบุ๋ม ( Pectus Excavatum ) คืออะไร?

ภาวะอกบุ๋ม ( Pectus Excavatum ) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “ อาการอกบุ๋ม ” เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิดบริเวณกระดูกหน้าอกและกระดูกซี่โครง ทำให้กระดูกส่วนกลางหน้าอกบุ๋มลงไปในลักษณะคล้ายถ้ำ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบต่อการทำงานของปอดและหัวใจได้หากภาวะนี้มีความรุนแรงมาก

สาเหตุของ ภาวะอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)

ภาวะอกบุ๋ม (Pectus Excavatum) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อกระดูกหน้าอกบุ๋มลงไปด้านใน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกและการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น ปอดและหัวใจ สาเหตุของภาวะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยหลายประการที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุหรือเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะนี้ ดังนี้
1. ปัจจัยทางพันธุกรรม : ภาวะอกบุ๋ม มักพบว่ามีความสัมพันธ์กับประวัติครอบครัวที่มีสมาชิกที่มีภาวะนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการมีปัจจัยทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้การพบว่ามี ภาวะอกบุ๋ม สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีประวัติการเกิดภาวะนี้มาก่อน
2. ความผิดปกติในการเจริญเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อน : การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของกระดูกสันอกและกระดูกอ่อนบริเวณซี่โครงอาจเจริญเติบโตไม่สมดุลกัน ทำให้กระดูกหน้าอกบุ๋มลงไปด้านใน
3. โรคทางระบบเกี่ยวพัน (Connective Tissue Disorders) : ภาวะอกบุ๋มสามารถพบร่วมกับโรคทางระบบเกี่ยวพัน เช่น Marfan Syndrome หรือ Ehlers-Danlos Syndrome ซึ่งเป็นโรคที่มีผลต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย โดยผู้ป่วยที่มีโรคเหล่านี้มักมีปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อนที่ไม่สมดุลกัน
4. ความผิดปกติแต่กำเนิด : ภาวะอกบุ๋มมักเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด โดยมีการเจริญเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อนที่ไม่สมดุลกันตั้งแต่ในครรภ์ ทั้งนี้เอง ก็สามารถตรวจพบ ภาวะอกบุ๋ม มักเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก และสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนเมื่อเด็กโตขึ้น
5. การเจริญเติบโตที่ไม่สมดุลในช่วงวัยรุ่น : ในบางกรณี ภาวะอกบุ๋ม อาจเริ่มแสดงอาการในช่วงวัยรุ่นเมื่อร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของกระดูกและกระดูกอ่อนอาจทำให้เกิดการบุ๋มของกระดูกหน้าอกในช่วงวัยรุ่น

อาการและผลกระทบของภาวะอกบุ๋มมีหลายระดับ ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง อาการที่พบได้บ่อยคือ

• หน้าอกบุ๋มลงบริเวณกระดูกสันอก
• หายใจลำบากหรือหายใจตื้นในกรณีที่ภาวะรุนแรง
• ปวดหน้าอก
• หัวใจเต้นผิดปกติ
• เหนื่อยง่ายเมื่อออกกำลังกาย

อกบุ๋ม มีกี่แบบ?

ภาวะอกบุ๋ม หรือ Pectus Excavatum มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความรุนแรงและลักษณะของการบุ๋มของกระดูกหน้าอก โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายลักษณะ ดังนี้

1. แบบเบา ( Mild Pectus Excavatum )

ลักษณะ : กระดูกหน้าอกบุ๋มลงเล็กน้อย ทำให้หน้าอกมีความบุ๋มเพียงเล็กน้อย
ผลกระทบ : มักไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของปอดและหัวใจ แต่สามารถสร้างความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอก

2. แบบปานกลาง ( Moderate Pectus Excavatum )

ลักษณะ : กระดูกหน้าอกบุ๋มลงในระดับที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้เห็นลักษณะการบุ๋มได้ชัดเจนเมื่อมองด้วยตาเปล่า
ผลกระทบ : อาจมีผลกระทบต่อการหายใจและการทำงานของหัวใจเล็กน้อย และส่งผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอก

3. แบบรุนแรง ( Severe Pectus Excavatum )

ลักษณะ : กระดูกหน้าอกบุ๋มลงอย่างมาก ทำให้หน้าอกบุ๋มลงไปอย่างชัดเจน
ผลกระทบ : มีผลกระทบต่อการทำงานของปอดและหัวใจ อาจทำให้หายใจลำบากและเหนื่อยง่ายเมื่อออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอกอย่างมาก

การแก้ไข โรคอกบุ๋ม สามารถทำควบคู่กับศัลยกรรม เสริมหน้าอก ได้ไหม?

โรคอกบุ๋ม ( Pectus Excavatum ) เป็นภาวะที่กระดูกหน้าอกบุ๋มลงไปด้านใน ซึ่งสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของปอดและหัวใจ รวมถึงมีผลกระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกของหน้าอก ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการแก้ไข ภาวะอกบุ๋ม พร้อมกับการเสริมหน้าอก มีวิธีการที่สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุดได้ ดังนี้
1. การผ่าตัด Nuss Procedure ร่วมกับการเสริมหน้าอก : ในกรณีที่ภาวะอกบุ๋มรุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัด Nuss Procedure ก่อนเพื่อตั้งกระดูกหน้าอกให้ถูกตำแหน่ง หลังจากนั้นก็สามารถทำการเสริมหน้าอกเพื่อปรับรูปลักษณ์และเพิ่มขนาดของหน้าอกได้ตามปกติ

• ข้อดี : การผ่าตัด Nuss Procedure จะช่วยแก้ไขภาวะอกบุ๋มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่การเสริมหน้าอกจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและปรับรูปลักษณ์ของหน้าอกให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น
• ข้อจำกัด : ต้องการการผ่าตัดและระยะเวลาพักฟื้นนาน

2. การผ่าตัด Ravitch Procedure ร่วมกับการเสริมหน้าอก : การผ่าตัด Ravitch Procedure เป็นการตัดกระดูกอ่อนที่ผิดปกติ และวางแท่งโลหะเพื่อดันกระดูกหน้าอกขึ้น หลังจากนั้นจะสามารถทำการเสริมหน้าอกเพื่อเพิ่มขนาดและปรับรูปลักษณ์ของหน้าอก

• ข้อดี : วิธีการนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาภาวะอกบุ๋มได้อย่างถาวร พร้อมกับการเสริมหน้าอกที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามและความมั่นใจ
• ข้อจำกัด : ต้องการการผ่าตัดที่ใหญ่และใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน

3. การใช้อุปกรณ์ปรับรูปทรงภายนอก ( Vacuum Bell ) ร่วมกับการเสริมหน้าอก : ในกรณีที่ภาวะอกบุ๋มไม่รุนแรงมาก สามารถใช้อุปกรณ์สูญญากาศ ( Vacuum Bell ) เพื่อดันกระดูกหน้าอกขึ้นควบคู่กับการเสริมหน้าอก

• ข้อดี : ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถทำได้ที่บ้าน การเสริมหน้าอกจะช่วยปรับรูปลักษณ์และเพิ่มขนาดของหน้าอก
• ข้อจำกัด : ใช้เวลานานในการเห็นผลลัพธ์จากการใช้อุปกรณ์สูญญากาศ และต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวัน

4. การทำกายภาพบำบัดและการเสริมหน้าอก : การทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบ ๆ หน้าอก ในขณะที่การเสริมหน้าอกจะช่วยปรับรูปลักษณ์ของหน้าอกให้ดูดีขึ้น

• ข้อดี : ช่วยปรับปรุงการหายใจและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ควบคู่กับการเสริมหน้าอกเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
• ข้อจำกัด : อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในกรณีที่ภาวะอกบุ๋มรุนแรง

ทั้งนี้ ในกรณีที่ต้องการ เสริมหน้าอก เพียงอย่างเดียว ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยไหนบ้างนั้น มาดูกัน

อกบุ๋มเสริมหน้าอกได้ไหม ทำไปแล้วจะเห็นขอบซิลิโคนหรือป่าว!!!

ถึงปัญหา อกบุ๋ม จะเป็นปัญหาที่อาจพบเจอได้ยาก และยังเป็นปัญหาที่ทำให้หมดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การใส่เสื้อผ้าก็ไม่สวย ใส่บิกินี่ก็ไม่กล้า เพราะบางครั้งก็อยากจะสวยเหมือนคนอื่นบ้าง แต่ก็กลัวว่าถ้า เสริมหน้าอก ไปแล้วจะเห็นขอบซิลิโคนชัดเจนอีก เรามาเจาะลึกกันเลย ว่าถ้าจะต้องตัดสินใจ เสริมหน้าอก เพื่อแก้ไขปัญหา อกบุ๋ม จะมีปัจจัยในการเลือกยังไง

ปัจจัยที่ต้องดูให้ดีก่อนตัดสินใจ เสริมหน้าอก

1. ระดับความรุนแรงของ ภาวะอกบุ๋ม : หากพบว่า ภาวะอกบุ๋ม มีความรุนแรงมาก การเสริมหน้าอกอาจต้องทำร่วมกับการแก้ไขภาวะอกบุ๋ม เช่น การผ่าตัด Nuss Procedure หรือ Ravitch Procedure ก่อนที่จะทำการเสริมหน้าอก และหากพบว่า ภาวะอกบุ๋ม มีความรุนแรงน้อย การเสริมหน้าอก ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดแก้ไขภาวะอกบุ๋มก่อน
2. การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ก็คือควรปรึกษากับทางศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการเสริมหน้าอกโดยตรง เพื่อทำการประเมินสภาพร่างกายและให้คำแนะนำที่เหมาะสม ทั้งนี้เอง ศัลยแพทย์อาจใช้วิธีการตรวจร่างกายเพิ่มเติม เช่น การเอกซเรย์หรือซีทีสแกน เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงสร้างกระดูกหน้าอกชัดเจนยิ่งขึ้น
3. การเลือกชนิดและขนาดของ ซิลิโคนเสริมหน้าอก : การเลือก ซิลิโคนเสริมหน้าอก ที่มีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสม นับว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเราเลือกซิลิโคนในขนาดที่เหมาะสมกับร่างกาย ก็อาจจะช่วยลดการมองเห็นขอบซิลิโคน ทั้งนี้เอง ในการตัดสินใจ ควรปรึกษากับศัลยแพทย์ เพื่อช่วยเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
4. ตำแหน่งการใส่ซิลิโคนเสริมหน้าอก : การใส่ซิลิโคนเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ จะช่วยลดการมองเห็นขอบซิลิโคนได้ดีกว่าการใส่ซิลิโคนเสริมหน้าอกบนกล้ามเนื้อ เนื่องจากกล้ามเนื้อจะช่วยปกปิดขอบซิลิโคนเสริมหน้าอก
5. ความหนาของเนื้อเยื่อหน้าอก : หากคนไข้ที่มีปัญหาเนื้อเยื่อหน้าอกบาง ขอบซิลิโคนอาจเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น การเลือกใช้ซิลิโคนเสริมหน้าอกที่เหมาะสมกับความหนาของเนื้อเยื่อจะช่วยลดปัญหานี้ได้

รู้ให้ชัด ขั้นตอนการ เสริมหน้าอก ในผู้ที่มี ภาวะอกบุ๋ม เพื่อไม่ให้เห็นขอบซิลิโคน

การเสริมหน้าอกในผู้ที่มี ภาวะอกบุ๋ม Pectus Excavatum ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่เห็นขอบซิลิโคน ขั้นตอนการ เสริมหน้าอก ในกรณีนี้สามารถทำได้ ดังนี้

1. การวินิจฉัยและวางแผน

• การประเมิน ภาวะอกบุ๋ม : ศัลยแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและวินิจฉัยความลึกและรูปแบบของ ภาวะอกบุ๋ม
• การถ่ายภาพเอกซเรย์หรือซีทีสแกน : เพื่อประเมินโครงสร้างของกระดูกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ อก
• การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอก : เลือกขนาดและรูปทรงของซิลิโคนที่เหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้บริการ

2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

• การปรึกษาศัลยแพทย์ : พูดคุยกับศัลยแพทย์เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไข ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
• การเตรียมสุขภาพ : การตรวจสุขภาพทั่วไปและการงดอาหารและน้ำดื่มตามคำแนะนำของศัลยแพทย์

3. ขั้นตอนการผ่าตัด

• การดมยาสลบ : ในขั้นตอนการผ่าตัด จะต้องดมยาสลบเพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการผ่าตัด
• การผ่าตัดและการใส่ซิลิโคน : ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผล ซิลิโคนเสริมหน้าอกจะถูกใส่เข้าไปในช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อหน้าอก เพื่อลดความเสี่ยงในการเห็นขอบซิลิโคน ในบางกรณี แพทย์อาจใช้เทคนิค Dual Plane ซึ่งเป็นการใส่ซิลิโคนบางส่วนใต้กล้ามเนื้อและบางส่วนเหนือกล้ามเนื้อหน้าอก

4. การดูแลหลังการผ่าตัด

• การพักฟื้น : ผู้ใช้บริการจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1 - 2 วัน หลังจากนั้นสามารถกลับบ้านได้
• การดูแลแผล : ต้องดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาดและแห้ง รวมถึงการเปลี่ยนผ้าพันแผลตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
• การติดตามผล : เข้ารับการตรวจติดตามผลกับศัลยแพทย์เพื่อตรวจเช็คการฟื้นตัวและผลลัพธ์ของการผ่าตัด

5. ผลลัพธ์และการติดตามระยะยาว

• การฟื้นตัวเต็มที่ : ผู้ป่วยจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมปกติได้ภายใน 4 - 6 สัปดาห์
• การดูแลตัวเอง : หลีกเลี่ยงการออกแรง ๆ หนัก ๆ และการกระแทกที่บริเวณหน้าอกในช่วงแรกหลังการผ่าตัด
• การติดตามผลระยะยาว : เข้ารับการตรวจเช็คซิลิโคนและสุขภาพทั่วไปเป็นระยะ ๆ ตามคำแนะนำของศัลแพทย์

เรามาดูกันเลย ว่าคนที่มีปัญหา อกบุ๋ม เสริมหน้าอก ที่ SLC ไปแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง

มาร์คจุดก่อนวางซิลิโคน แก้ไขร่องเต้าบุ๋มลึก สรีระผอมมาก หนัก 45 สูง 163 #รีวิวหมอโบ๊ทSLC #รีวิวเสริมหน้าอกSLC
 
270 extra gel แก้ร่องยุบ เต้าเล็ก ผอมเห็นซี่โครงชัด หลังทำพอดีมาก #รีวิวหมอโบ๊ทSLC #TeamAngelSLC #รีวิวเสริมหน้าอกSLC
 
7 วัน แก้ร่องกระดูกกลางเต้ายุบ เสริมเทคนิค secret angle 270cc วันนี้ไม่ช้ำเลย #รีวิวหมอโบ๊ทSLC #TeamAngelSLC #รีวิวเสริมหน้าอกSLC

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาที่เราได้เตรียมมาให้ทุกคนในวันนี้ รับรองว่าจะได้ข้อมูลกลับไปไม่มากก็น้อย และสำหรับสาว ๆ ที่มี อกบุ๋ม หรือ ภาวะอกบุ๋ม แล้วสงสัยว่า " อกบุ๋มเสริมหน้าอกได้ไหม " สรุปได้เลยว่า การ เสริมหน้าอก สามารถทำได้จริง! ไม่ว่าจะมี โรคอกบุ๋ม ในระดับเบา ปานกลาง หรือรุนแรง ก็สามารถเสริมหน้าอกให้ดูสวยและปังได้ โดยการปรึกษากับทางศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาและเลือกวิธีการที่เหมาะสม สุดท้ายนี้ อย่าปล่อยให้ปัญหานี้มากวนใจและลดความมั่นใจของเรา เพียงแค่ก้าวเข้ามาที่ โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC รับรองว่าจะได้แนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมควบคู่ไปกับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง เพื่อให้ทุกคนกลับมามีความมั่นใจและสนุกกับการแต่งตัวสวย ๆ ในทุก ๆ วัน! และเป็น Best Version ได้อย่างเต็มที

 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Call Center : +66 2 714 9555

Whatsapp : +66 96 116 0806

Facebook : SLCclinic

Skype : SLCclinic

LINE : @SLChospital