HomeHome PromotionPromotion VouchersVouchers ServicesServices LINE Official AccountLINE Official

SEARCH

Recommend Keywords : Product Code , Product Name

Articles
รวมสุดยอด!! เทคนิค ''เสริมจมูก''
20 พ.ย. 2558 17:57 น. | เปิดอ่าน 55,827

ก่อนหน้าสวย จมูกต้องสวยก่อน!!
จมูก ถือว่าเป็นอวัยวะที่โดดเด่นที่สุดที่จะเป็นตัวกำหนดองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้า ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีทรงจมูกที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ เชื้อชาติ นั้นๆ ซึ่งแน่นอนค่ะว่า บางเชื้อชาตินั้น ช่างโชคดีซะเหลือเกิน!! ที่เกิดมาพร้อมกับสันจมูกโด่งสวยงาม แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีรูปทรงจมูกที่สวย มีสันจมูกสูง มาตั้งแต่เกิด บางรายอาจจะจมูกเบี้ยว เนื้อปีกจมูกหนา รูจมูกเชิด มาแต่กำเนิดก็อาจจะทำให้ขาดความมั่นใจอยู่บ้าง ดังนั้นวิธีการแก้ไขทางการแพทย์ที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณเกิดความมั่นใจ และเป็นวิธีที่เป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน นั่นคือ “การศัลยกรรมเสริมจมูก” โดยที่ศัลยแพทย์จะวิเคราะห์เทคนิคการเสริมจมูกด้วยวิธีต่างๆตามความเหมาะสมของรูปจมูกเดิมของคุณ






3 ส่วนสำคัญของทรงจมูก

  1. ดั้ง เป็นปัญหาสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ บางท่านไม่ได้เกิดมาพร้อมกับดั้งโด่งสวยแบบชาวต่างชาติ ในส่วนนี้จึงเป็นส่วนที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องการเสริมดั้งให้สูงขึ้น มากกว่าการทำส่วนอื่นๆ

  2. กลางจมูก บางคนอาจจะเกิดปัญหาจมูกเป็นคลื่น มีเนื้อในส่วนนี้มากเกินไป จึงทำให้จมูกดูโตไม่รับกับใบหน้า

  3. ปลายจมูก เป็นส่วนที่หลายคนต้องการปรับแต่งทั้งในส่วนของปีกจมูก และ ปลายจมูก ให้ได้รูปทรงที่สวยงามตามต้องการ


รวมเทคนิคการเสริมจมูกของ SLC
1. การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)
การเสริมจมูกโดย “เทคนิคแบบปิด” โดยทำการเปิดแผลภายในจมูกเพื่อใส่ซิลิโคน วิธีนี้เป็นวิธีที่จะรบกวนโครงสร้างพื้นฐานของจมูกน้อยที่สุด และทำการเก็บแผลอยู่ภายในจมูก
เหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีพื้นฐานจมูกดี ตั้งแต่ดั้งจนถึงปลายจมูกเรียวเล็กและอยู่แล้ว
ข้อดี
1. ราคาไม่สูงเท่าการทำจมูกแบบเปิด
2. บวมช้ำน้อย บางรายไม่บวมช้ำเลย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ
3. ใช้เวลาไม่นาน 30 นาที โดยประมาณ

2. การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique)  
การเสริมจมูกโดย “เทคนิคแบบเปิด”  หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆว่า การทำจมูกแบบโอเพ่น (Open)  วิธีนี้จะเป็นการเปิดแผลบริเวณฐานจมูก กรีดผ่าออกในแนวดิ่ง เพื่อให้เห็นแกนจมูก ทำการแยกเนื้อ และผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูกโดยจะทำการเสริมจมูกโดยใช้เทคนิคการนำบางส่วนอวัยวะของคนไข้มาช่วยทำให้รูปทรงของจมูกสวยอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เช่น ส่วนของกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกก้นกบ ศัลยแพทย์จะพิจารณาโครงสร้างของจมูกและทำการ จัดแต่ง แก้ไขข้อบกพร่องโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละส่วนของจมูก
เหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีรูจมูกเชิด ปลายจมูกสั้น ต้องการแก้ไขทรงจมูกให้ยาวขึ้น พุ่งขึ้น หรือ แม้กระทั่งการทำจมูกหยดน้ำที่ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อดี
1. สำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกผิดรูปมาก วิธีนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และ ครบถ้วน
2. การตกแต่งปลายจมูกให้โด่ง เชิด จะดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจาก การทำจมูกแบบเปิดจะใช้เทคนิคการนำอวัยวะบางส่วนของร่างกายมาตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การนำกระดูกอ่อนหลังหูมาเติมช่วงปลายจมูกเพื่อให้จมูกยาวขึ้น รวมถึงจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการทะลุของซิลิโคน

วัสดุที่ใช้ในการศัลยกรรมตกแต่งจมูก
1. ซิลิโคนสำเร็จรูป
เป็นซิลิโคนชนิดนิ่มพิเศษเกรดพรีเมี่ยม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน KFDA มีความยืดหยุ่น ไม่มีโอกาสจะทะลุ หรือ ซิลิโคนเอียงได้เลย ลักษณะซิลิโคนจะถูกออกแบบมาสำเร็จพร้อมใส่ มีความนิ่มจึงทำให้สามารถบิดจมูกได้ ดูเป็นธรรมชาติ ในการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสำเร็จนี้ศัลยแพทย์จะทำการพิจารณารูปทรงจมูกเดิม ควบคู่ไปกับความต้องการของคนไข้ ทำการตกแต่งซิลิโคนเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับรูปทรงจมูกเดิม รับกับใบหน้า ได้รูปทรงที่แน่นอน





2. ซิลิโคนเหลา
 เป็นซิลิโคนที่มีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ ศัลยแพทย์จะทำการเหลา ตกแต่งให้เหมาะกับรูปทรงของจมูกคนไข้แต่ละรายได้ สามารถควบคุมทรงของจมูกในเรื่องของความโด่งมาก หรือ น้อย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม


3. การเสริมจมูกโดยใช้ Silicone และ กระดูกอ่อนหลังใบหู
นอกจากการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแล้ว เทคนิคที่จะสามารถแก้ไขรูปทรงของจมูกให้สวยอย่างเป็นธรรม และ โด่งขึ้นได้อีก นั่นคือ การใช้อวัยวะบางส่วนในร่างกายของคนไข้มาช่วยเสริมบริเวณปลายจมูก โดยการใช้ “กระดูกอ่อนหลังใบหู” โดยจะทำการผ่าตัดกระดูกอ่อนที่อยู่หลังใบหู บริเวณ Concha  หรือ ส่วนแอ่งโค้งขอใบหูออกมาในปริมาณที่เหมาะสมกับการนำมาตกแต่งจมูก ซึ่งจะปรากฏแผลตรงรอยพับ จึงทำให้สังเกตเห็นได้ยาก วิธีนี้จะช่วยให้คนที่จมูกสั้น ดูยาวขึ้น ในบางรายที่มีเนื้อปลายจมูกบางหากต้องการเสริมจมูกให้โด่งสูง วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดซิลิโคนทะลุได้


4.  การเสริมจมูกร่วมกับการตัดปีกจมูก
การแก้ไขโครงสร้างของจมูก บางรายที่อาจจะมีรูจมูกกว้าง ปีกจมูกใหญ่ ไม่สวยงาม “การตัดปีกจมูก” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้ รูจมูกดูเล็กลง รับกับใบหน้ามากขึ้น โดยจะซ่อนแผลไว้ด้านในของปีกจมูก แผลเป็นไม่ชัดเจน โดยจะมีเทคนิคการลดขนาดปีกจมูก ดังนี้

- การตัดปีกจมูกด้านใน เป็นที่นิยมมากเนื่องจากแผลจะอยู่ด้านในใต้ปีกจมูก ช่วยให้ปีกจมูกแคบลง
- การตัดปีกจมูกด้านนอก สำหรับผู้ที่มีจมูกบานมากๆให้แคบลง แต่จะมีแผลอยู่ด้านนอก
*ซึ่งในแต่ละเทคนิคของการตัดปีกจมูกนั้น แพทย์จะพิจารณาจากรูปทรง และ เนื้อจมูก ของคนไข้ด้วย
-ภาพตัดปีก


5. การเสริมจมูกร่วมกับการใช้กระดูกอ่อนก้นกบ
การเสริมจมูกร่วมกับการใช้กระดูกอ่อนก้นกบของตนเองนั้น เหมือนกับเป็นการปลูกย้ายเนื้อเยื่อของตนเอง ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษที่จะสามารถช่วยให้ปลายจมูกเป็นทรงหยดน้ำดูสมส่วนมากขึ้น จมูกดูยาวขึ้น มีความยืดหยุ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการรองรับปลายซิลิโคนไม่ให้เกิดการทะลุ โดยศัลยแพทย์จะทำการตัดกระดูกบริเวณก้นกบมาเพียงเล็กน้อย จากนั้นนำกระดูกก้นกบมาวางเรียงซ้อนกับเนื้อเยื่อจนดูเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นวิธีที่ไม่ทำให้คนอื่นเห็นบาดแผล และ สามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต


6.  การเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง
การเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครงของตนเองนั้น จะทำให้ทรงของจมูกดูเป็นธรรมชาติ ในระยะยาวสามารถบิดจมูกได้เหมือนกับจมูกจริง หากอายุมากขึ้นเนื้อโดยรอบก็จะเหี่ยวไปตามวัยไม่เกิดแท่งที่เป็นสันขึ้นมาแบบการเสริมด้วยซิลิโคน แต่วิธีนี้ จะมีค่าใช้จ่ายสูง เกิดแผลทั้งการผ่าตัดซี่โครง และ บริเวณปลายจมูก เป็นวิธีที่ใช้เวลามากกว่าการเสริมจมูกด้วยวิธีอื่นๆ บางรายจะทำการเสริมจมูกด้วยวิธีนี้ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุมาส่งผลให้จมูกแบนลงจึงต้องได้รับการแก้ไข บางรายเสริมจมูกมาแต่ต้องการแก้ไขบริเวณปลายจมูกให้พุ่งมากขึ้น ทั้งนี้จะต้องอยู่ภายใต้การพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น

ภาพ ก่อน - หลัง ศัลยกรรมเสริมจมูก



การดูแลหลังจากการผ่าตัด

  • นอนหนุนหมอน ในท่าที่ศีรษะสูงในช่วง 2-3 วัน หลังการทำ เนื่องจากหลังการผ่าตัดเสริมจมูกไปแล้ว 24ชม. จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณจมูก และ มีอาการบวมบริเวณใบหน้า

  • ไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 2-3 วัน หลังจากการทำ เพราะอาจจะทำให้จมูกผิดรูป

  • ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมทีอาจจะกระทบกระเทือนจมูกได้ เช่น การวิ่ง การกระโดด ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และ ตัดไหมหลังจากทำ 1 สัปดาห์

  • หลังจากทำไปแล้ว 1-2 สัปดาห์อาการบวม หรือเขียวคล้ำจะหายไป ทุกอย่างจะเริ่มเป็นธรรมชาติหลังจากที่ทำไปประมาณ 1-3 เดือน

  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และมาพบแพทย์ตามนัด

  • หากมีอาการผิดสังเกต หรือมีข้อสงสัย กรุณาโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ทันที

SLC ยินดีให้คำปรึกษาทุกปัญหาความงาม
Call Center : +66 2 714 9555
Whatsapp : +66 96 116 0806
Facebook : SLCclinic
Skype : SLCclinic 
LINE : @SLCclinic
เพิ่มเพื่อน

 

 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Call Center : +66 2 714 9555

Whatsapp : +66 96 116 0806

Facebook : SLCclinic

Skype : SLCclinic

LINE : @SLChospital

เพิ่มเพื่อน

Related Articles