ต้นกำเนิดของ "ไขมันส่วนเกิน"
"ไขมันส่วนเกิน" เกิดจากกระบวนการของร่างกายนั้น มีการขับของเสียที่มีอยู่มากจนเกินไป ของเสียบางส่วนจะถูกขับถ่ายออกมาเป็นอุจจาระ แต่ของเสียบางส่วนที่ไม่ถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกาย จะก่อให้เกิดเป็นสารพิษ เมื่อสารพิษนี้ไม่ถูกปล่อยออกจากร่างกาย จึงทำให้สารพิษนี้วนกลับมาสู่ร่างกายเช่นเดิมเพื่อหาทางออกอื่น ซึ่งสารพิษนี้จะเป็นอันตรายต่อการไหลเวียนของเลือด และ น้ำเหลือง ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ หรือ เป็นสิวได้ แต่หาก สารพิษนี้หาทางออกอื่นไม่เจออีกแล้ว ก็จะถูก "ฝังปิดตาย" ลงในไขมัน ไขมันจะเป็นตัวช่วยไม่ให้สารพิษนี้ไหลเวียนภายในร่างกายได้ จึงทำให้ไม่ไปก่อกวนต่อเส้นเลือด และ น้ำเหลืองได้อีก ไขมันส่วนเกินดังกล่าว จะออกมาในรูปแบบของ "เซลลูไลท์" ที่เป็นการรวมตัวของไขมันระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อสะสมจนดันผิวขึ้นมาจนดูคล้ายเป็น "ผิวเปลือกส้ม"  

ต้นกำเนิดของ "เซลลูไลท์"
ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อจะมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissue ) ที่มีความแข็งแรง ไขมันที่อยู่ชั้นบนสุดของชั้นไขมันนี้ จะเป็นต้นกำเนิดของเซลลูไลท์ ส่วนเซลลูไลท์นั้น เกิดขึ้นจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อไขมัน ร่วมกับความบกพร่องของการไหลเวียนโลหิต และระบบการระบายน้ำเหลืองในบริเวณนั้นๆ จนกระทั่งทำให้เกิดการคั่งของของเหลวรอบๆเซลล์ไขมัน จากนั้นจึงเกิดพังผืดมาห่อหุ้มเซลล์ไขมันที่หนา ด้วยรูปทรงโครงสร้างของเซลล์ที่ผิดรูป เซลล์ไขมันจะดันขึ้นมายังชั้นผิวหนังทำให้เกิดลักษณะผิวเปลือกส้มที่ดูไม่เรียบนั่นเอง


ความแตกต่างระหว่าง "เซลลูไลท์" และ "ไขมันธรรมดา" 
เซลลูไลท์แตกต่างจากไขมันธรรมดาในร่างกายที่เราสามารถกำจัดออกไปได้ง่าย ๆ ด้วยการออกกำลังกาย แต่เซลลูไลท์ไม่สามารถกำจัดออกได้ง่ายเช่นนั้น เพราะเซลลูไลท์มีความหนาแน่นด้วยเซลล์ไขมันที่ผิดรูป ต้องอาศัยการนวดผิวหนัง ร่วมกับการออกกำลังกาย และ ควบคุมอาหารร่วมด้วย จึงจะสามารถกำจัดเซลลูไลท์ออกไปอย่างได้ผล

เซลลูไลท์จะพบมากในผู้หญิง เพราะอะไร?
เซลลูไลท์ สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทั้งคนอ้วน และ คนผอมได้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน โดยจะพบมากในเพศหญิง มากกว่าเพศชาย เนื่องจาก เนื่อเยื่อเกี่ยวพันในผู้หญิงจะเรียงตัวกันเป็นแนวตั้ง และมีปริมาณไขมันสะสมมาก ส่วนเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในผู้ชายจะเรียงกันเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเล็กๆ และ มีปริมาณไขมันสะสมน้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ค่อยพบเซลลูไลท์ในผู้ชาย


5 ประเภทของ “เซลลูไลท์”

1. Soft Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่พบได้บ่อยในผู้หญิงอายุ 20-30 ปี มีลักษณะเป็นก้อนขนาดเล็ก เป็นริ้วลูกคลื่นแบบนิ่ม สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากพันธุกรรม

2. Hard Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่พบได้บ่อยในผู้หญิงอายุ 20-40 ปี มีลักษณะเป็นก้อนเล็กและแข็ง เมื่อบีบดูจะเห็นเป็นก้อนแข็งเล็ก ๆ อย่างชัดเจน พบได้บ่อยบริเวณบั้นท้ายและสะโพก

3. Flaccid Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่มักพบได้ในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปและไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ซึ่งจะลักษณะเป็นก้อนไขมันนุ่ม มีการหย่อนคล้อยของผิวหนังและกล้ามเนื้ออ่อนเหลว พบได้บ่อยบริเวณหน้าท้อง รอบเอว ท้องแขน และคาง

4. Edmatous Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่มักได้กับผู้ที่มีการไหลเวียนของเลือดไม่ดี มีการคั่งของน้ำเหลือง จนทำให้มีลักษณะเหมือนการบวมน้ำ พอกดแล้วบุ๋ม พบได้บ่อยบริเวณสะโพก ต้นขา ซึ่งบริเวณที่เป็นนั้นจะมีผิวหนังบอบบางเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจนและบวม

5. Mixed Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ในคนเดียวกันจะมีเซลลูไลท์อยู่หลายแบบ ตั้งแต่ประเภทที่ 1 - 4 โดยมักพบในผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและในวัยผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือผู้ที่ชอบกินอาหารจำพวกไขมัน ของทอด น้ำตาล และแป้งมากจนเกินไป

จบปัญหาไขมันส่วนเกิน ผิวเปลือกส้ม! ด้วยเทคโนโลยี  “Vaser Smooth”
Vaser Smooth คือ เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบให้เกิดผลลัพธ์แบบ x 2 ทั้งในเรื่องของการสลายไขมันส่วนเกิน ได้อย่างเฉพาะเจาะจง ตรงจุด รวมถึงสลายพังผืดของเซลลูไลท์ในบริเวณที่มีเนื้อเยื่อไขมันที่ตื้นเพื่อผิวเรียบอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้เทคโนโลยีอัลตร้าซาวน์ในการละลายไขมัน ทำการตัดพังผืดโดยแยกเฉพาะโครงสร้างที่ทำให้เกิดรอยบุ๋มของผิวหนังเพื่อสร้างความสม่ำเสมอให้กับผิวบริเวณที่ไม่เรียบ มั่นใจความปลอดภัยจากเครื่องมือที่ได้รับรองมาตรฐาน U.S. FDA

ขั้นตอนของการสลายเซลลูไลท์ด้วย  “Vaser Smooth”
1. ทำการเปิดแผลขนาดไม่เกิน 1 ซม.  เพื่อใส่เครื่องมือทางการแพทย์
2. ฉีดน้ำเกลือที่ผสมยาชาเข้าไปในเฉพาะบริเวณที่ทำ
3. ใช้พลังงานอัลตร้าโซนิคผ่านเครื่องมือ หัว Vaser Smooth เพื่อสลายพังผืดของเซลล์ไขมันสาเหตุของผิวไม่เรียบได้อย่างตรงจุด จนกลายเป็นของเหลว
4.  ทำการดูดไขมันเหลวออกมาอย่างนิ่มนวล โดยที่ไม่ไปรบกวนเนื้อเยื่อโดยรอบ

บริเวณที่สามารถกำจัดเซลลูไลท์ด้วย  “Vaser Smooth”

“Vaser Smooth” ผลลัพธ์ที่ได้ แบบ x 2

•  พังผืดของเซลลูไลท์สลายไป พร้อมกับผิวที่ เรียบเนียนเสมอกัน 
•  ขนาดของสัดส่วนลดลง
•  ผิวบริเวณที่ทำกระชับขึ้น

5 ข้อดีของการสลายเซลลูไลท์ด้วย “Vaser Smooth”

Review การสลายพังผืดเซลลูไลท์ด้วย “Vaser Smooth” 

การดูแลหลังจากการทำ “Vaser Smooth”
• ในบางบริเวณที่ทำอาจเกิดอาการฟกช้ำ ซึ่งจะสามารถหายไปได้ภายใน 2 สัปดาห์
•  ทานยา และ เข้ามาตัดไหมตามใบสั่งแพทย์

เพียงปรับพฤติกรรมก็สามารถ "เลี่ยงเซลลูไลท์" ได้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ทางเลือกที่ดีที่สุดในการป้องกันการเกิดเซลลูไลท์บริเวณผิว คือ การหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีไขมัน น้ำตาลสูง หลีกเลี่ยงการดูดบุหรี่ หรือ รับสารที่มีนิโคติน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้ได้ถึง 8 แก้วต่อวัน หรือ ทำการดีท็อกซ์ผิวด้วยการอบไอน้ำ ซาวน์น่า และ หันมาทานอาหารแบบ Raw Food อาจจะใช้วิธี Detox Liquid Diet คือดื่มแต่น้ำผักน้ำผลไม้ ซุปใส ชาสมุนไพร โดยไม่กินอะไรเลย เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายของเสีย ทำให้ไขมันลดลง เซลลูไลต์ก็จะน้อยลงตามไปด้วย  แต่ถ้าหากกลับมากินตามปกติเซลลูไลต์ก็จะกลับมาเหมือนเดิมด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณ  Siamhealth , Wikipedia , Frynn , Lizzierose , Pinterest , WomenSanook

SLC ยินดีให้คำปรึกษาทุกปัญหาความงาม
Call Center : +66 2 714 9555
Whatsapp : +66 96 116 0806
Facebook : SLCclinic
Skype : SLCclinic 
LINE : @SLCclinic

 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Call Center : +66 2 714 9555

Whatsapp : +66 96 116 0806

Facebook : SLCclinic

Skype : SLCclinic

LINE : @SLChospital